“ภัตตะ ฟาร์ม”

ตั้งอยู่ที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา  เป็นพื้นที่ที่ขึ้นชื่อด้านอากาศบริสุทธิ์และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมอย่างยิ่งต่อการทำเกษตรอินทรีย์ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ “ภัตตะ ฟาร์ม” ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยมีเป้าหมายในการผลิตอาหารปลอดภัย มีคุณภาพ และส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนด้วยการทำเกษตรอินทรีย์อย่างยั่งยืน

ความโดดเด่นของภัตตะ ฟาร์ม

1. พื้นฐานของดินและธรรมชาติที่เหมาะสม
วังน้ำเขียวเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อากาศบริสุทธิ์ และสภาพภูมิอากาศเอื้อต่อการเพาะปลูกแบบอินทรีย์ ทำให้พืชผักและผลไม้เติบโตได้อย่างแข็งแรง ลดความจำเป็นในการใช้สารเคมี.

• การทำเกษตรอินทรีย์ที่ได้มาตรฐาน

ภัตตะ ฟาร์ม ให้ความสำคัญกับมาตรฐานความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยวางระบบควบคุมคุณภาพ (Quality Control) ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกเมล็ดพันธุ์ การดูแลดิน น้ำ และกระบวนการเก็บเกี่ยว เพื่อให้มั่นใจว่าผลผลิตทุกชิ้นปราศจากสารเคมีอันตราย

• เชื่อมโยงเครือข่ายเกษตรกรในชุมชน

ภัตตะ ฟาร์ม มีแนวคิดในการทำงานร่วมกับเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ พร้อมสนับสนุนให้คนในชุมชนหันมาทำเกษตรอินทรีย์เพิ่มมากขึ้น นอกจากจะสร้างรายได้ร่วมกันแล้ว ยังเป็นการสืบสานอาชีพและวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

2. กลยุทธ์การตลาดและการสร้างการรับรู้ (Marketing Strategy)

• สร้างตัวตนผ่านสื่อออนไลน์ (Digital Presence)
• จัดทำเว็บไซต์นำเสนอเรื่องราวของฟาร์ม ทั้งประวัติ ที่มา กรรมวิธีการทำเกษตรอินทรีย์ และบล็อก (Blog) บอกเล่าเรื่องราวการเพาะปลูก กิจกรรม หรือข่าวสารต่าง ๆ
• ใช้โซเชียลมีเดีย (Facebook, Instagram, YouTube, TikTok) เพื่อเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตผลและเบื้องหลังการทำงานในฟาร์มอย่างสม่ำเสมอ เน้นความโปร่งใสและความจริงใจ
• กิจกรรมเชิงประสบการณ์ (Experiential Marketing)
• จัดเวิร์กช็อปสอนเทคนิคการปลูกผักอินทรีย์ และเชิญชวนคนในชุมชนหรือนักท่องเที่ยวมาลองปลูกด้วยตนเอง สร้างความผูกพันและความน่าเชื่อถือ
• เปิดฟาร์มให้นักท่องเที่ยวได้มาเก็บผัก ชิมผลผลิตสด ๆ จากไร่ และเรียนรู้วงจรการเพาะปลูกอินทรีย์
• สร้างเครือข่ายผู้บริโภคที่แข็งแรง (Community Building)
• จัดตั้งกลุ่มผู้บริโภค (Customer Community) ที่สนใจเกษตรอินทรีย์ รับฟังข้อเสนอแนะ และดูแลหลังการขายอย่างต่อเนื่อง
• สร้างความสัมพันธ์ระหว่างเกษตรกรในพื้นที่กับผู้บริโภคตรง เพื่อให้เห็นคุณค่าและความสำคัญของการทำเกษตรอินทรีย์อย่างแท้จริง
• ส่งเสริมความยั่งยืน (Sustainability Focus)
• พัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผักและผลไม้ในฟาร์ม เพื่อลดการสูญเสียและเพิ่มมูลค่า
• เพิ่มช่องทางจัดจำหน่ายทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงง่ายขึ้น และกระจายรายได้สู่ชุมชน

3. วิสัยทัศน์ (Vision) และ พันธกิจ (Mission)

• Vision (วิสัยทัศน์)

        “เป็นฟาร์มเกษตรอินทรีย์แนวหน้าของวังน้ำเขียว ที่ส่งมอบอาหารปลอดภัยและมีคุณภาพแก่ผู้บริโภค พร้อมสร้างชุมชนเกษตรแข็งแกร่ง ให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน”

• Mission (พันธกิจ)- ปลูกด้วยใจ ใส่ใจในคุณภาพ
     มุ่งเน้นการทำเกษตรอินทรีย์ที่มีมาตรฐานสูง ดูแลทุกขั้นตอนอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในด้านคุณภาพและความปลอดภัย

  - สร้างเครือข่ายความร่วมมือในชุมชน
           ประสานความร่วมมือกับเกษตรกรท้องถิ่น แลกเปลี่ยนองค์ความรู้และเทคนิค เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคน

  - ความซื่อสัตย์และจริงใจ
            แสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ด้วยความซื่อสัตย์ในกระบวนการทำงาน มุ่งมั่นส่งมอบข้อมูลที่ตรงไปตรงมา ไม่ปกปิด

  - เติบโตและพัฒนาอย่างยั่งยืน
           วางแผนและพัฒนากระบวนการเกษตรโดยคำนึงถึงผลกระทบระยะยาวต่อสิ่งแวดล้อมและคนในชุมชน เพื่อให้การเติบโตของฟาร์มเป็นไปอย่างยั่งยืน              และทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ร่วมกัน

  - สร้างความเชื่อมโยงระหว่างคนกับธรรมชาติ
            ให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกันระหว่างคนและสิ่งแวดล้อม ผ่านการผลิตและการบริโภคที่เคารพในทรัพยากรธรรมชาติ

“ภัตตะ ฟาร์ม”

• จะเป็นต้นแบบการทำเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่วังน้ำเขียวที่มุ่งหวังให้คนในชุมชนและผู้บริโภคได้ประโยชน์ร่วมกัน ด้วยแนวทางการตลาดเชิงกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการสร้างความผูกพันและความไว้วางใจ ผ่านกระบวนการทำงานอย่างโปร่งใส ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และเน้นการพัฒนาศักยภาพของชุมชนอย่างยั่งยืน
• ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและพันธกิจที่เข้มแข็ง ภัตตะ ฟาร์ม ยังคงเดินหน้าต่อไปเพื่อเป็นฟาร์มที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง สร้างคุณค่าให้กับเกษตรกร และช่วยผลักดันการทำเกษตรอินทรีย์ในประเทศไทยให้ก้าวไกลอย่างยั่งยืนตลอดไป.